มะเร็งบริเวณช่องอก ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งระบบน้ำเหลือง มะเร็งเต้านม
มะเร็งบริเวณช่องอก ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งระบบน้ำเหลือง มะเร็งเต้านม
ผู้ป่วยจะถูกจัดตำแหน่งตามขอบเขตที่กำหนดไว้ จากนั้นนักรังสีรักษาจะทำการฉายรังสีตามแผนการรักษา ขณะฉายรังสีให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ หายใจตามปกติ ในการฉายแต่ละครั้งใช้เวลา 5 – 30 นาที ขึ้นกับเทคนิคที่ใช้ ทำหารฉายรังสีสัปดาห์ละ 5 วัน ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ ตามชนิดและระยะของโรค และตามแผนการรักษาของแพทย์
- ห้ามลบเส้นและห้ามเติมเส้นด้วยตนเอง
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัด ห้ามวางกระเป๋าน้ำร้อนหรือประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉาย
- ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อลดการเสียดสีกับผิวหนัง
- งดล้างหรือทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ ถ้าจำเป็นให้ใช้น้ำสะอาดไหลผ่านและใช้ผ้าอ่อนนุ่มซับให้แห้ง
- งดทาแป้ง ครีม เครื่องสำอางใดๆ ยกเว้นเป็นยาที่แพทย์สั่ง
***ผิวหนังบริเวณที่ฉายรังสีควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะมีความบอบบางและเกิดแผลได้ง่าย***
- รับประทานอาหารที่สะอาด มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ งดอาหารหมักดอง เหล้า บุหรี่ ชา กาแฟ
- ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายตามสภาพของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
- ทำจิตใจให้สบาย ลดความวิตกกังวล โดยการหางานอดิเรกทำ
- หากผู้ป่วยรักษาโรคอื่นร่วมอยู่ด้วย ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาต่อไปและต้องรับการตรวจรักษาต่อกับแพทย์นั้นๆ ตามนัดสม่ำเสมอ
หากแพทย์อนุญาตให้อาบน้ำได้ ท่าสามารถปฏิบัติได้ทันทีตามที่แพทย์แนะนำ
ถ้าแพทย์ไม่ได้แนะนำ ให้ท่านปฏิบัติตังนี้
** ถ้ามีแผลบริเวณที่ฉาย ให้งดอาบน้ำจนกว่าแผลจะแห้ง จึงเริ่มอาบน้ำได้
** ถ้าไม่มีแผลบริเวณที่ฉายรังสี
> สัปดาห์ที่ 1-2 ให้อาบน้ำได้โดยไม่ขัดถูหรือฟอกสบู่บริเวณที่ฉายและซับให้แห้งด้วยผ้านุ่ม
> สัปดาห์ที่ 3 ให้อาบน้ำได้ ฟอกสบู่ แต่ไม่ขัดถูบริเวณที่ฉายรังสี และซับให้แห้งด้วยผ้านุ่ม
> สัปดาห์ที่ 4 ให้อาบน้ำได้ตามปกติ และใช้ครีมที่มีความชุ่มชื้นนวดบริเวณที่ฉายทั้งด้านหน้าและหลังอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทุกวันตลอดไป เพื่อป้องกันการแข็งตัวของผิวหนังจากการฉายรังสี
***หลังจากได้รับการรักษาครบแล้วแพทย์จะนัดมาตรวจติดามการรักษาต่อไปอีกระยะ ผู้ป่วยควรมารับการตรวจตามนัดทุกครั้ง***